Pets Therapy : สัตว์เลี้ยงแสนรัก…บำบัดใจ

อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าบรรดาสัตว์เลี้ยงเรานั้น นอกจากความน่ารักที่สร้างรอยยิ้มให้เราได้แบบไม่จำกัด ทั้งบำบัดทุกข์ คลายเหงา ทำให้เราหายเครียดได้แล้ว มันยังสามารถรักษาและเยียวยาโรคภัยต่างๆ ให้เราได้ การันตีด้วยงานวิจัยและการศึกษาในต่างประเทศมากมาย ที่พบว่าบรรดาสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นแมว หมา ปลา นก ฯลฯ สามารถช่วยเยียวยารักษาโรคได้ 

ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ออทิสติก สมาธิสั้น และยังสามารถเยียวยาจิตใจของผู้ป่วยมะเร็ง ไปจนถึงผู้ที่มีความเครียดหลังเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนใจหรือที่เรียกว่า PTSD โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ที่สำคัญยังช่วยลดสถิติการฆ่าตัวตายได้อย่างอยู่หมัด 

และเพื่อเป็นการต้อนรับ National Pet Day หรือวันสัตว์เลี้ยงสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 11 เมษายนของทุกปี เดือนนี้ TBCC จึงชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ 4 สัตว์เลี้ยงแสนรักในฐานะ ‘นักบำบัดใจ’ ที่สามารถเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงาในบ้านได้ 

Cat Therapy :  เหมียวบำบัด  

มีหลายการศึกษาพบว่า การเลี้ยงแมวนั้นช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ทางหนึ่ง โดยเสียงเพอร์ (Purr) ที่ออกจากลำคอของแมวนั้นอยู่ในช่วงความถี่ 20-140 เฮิรตซ์ ซึ่งถือเป็นช่วงความถี่ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย กระตุ้นการสร้างสมาธิ ลดความเครียดและความดัน และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นได้อย่างน่าทึ่ง

ช่วงความถี่ดังกล่าวยังช่วยลดความเสี่ยงหัวใจวาย ทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก และการสั่นจากเสียงเพอร์ยังช่วยลดการติดเชื้อ อาการบวม และเร่งการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าการเลี้ยงแมวยังสามารถช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ ออทิสติก และสมาธิสั้น เพราะความสนใจหรือใส่ใจบางอย่าง เช่น การเลี้ยงเจ้าเหมียวนี้ ยังสามารถทำให้จิตใจสงบ ไม่คิดฟุ้งซ่านได้เป็นอย่างดี 

จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมบริษัทมากมายในญี่ปุ่นจึงมีนโยบายให้พนักงานสามารถนำแมวไปเลี้ยงที่ทำงานได้ แถมให้ค่าอาหารแมวเป็นโบนัสพิเศษอีกด้วย หรือบางบริษัทใจดีถึงขั้นให้ ‘ยืมแมว’ กลับไปเลี้ยงที่บ้าน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพราะเหตุผลที่อยากจะมัดใจพนักงานทาสแมวทั้งหลาย ไม่ให้ลาออกหรือเปลี่ยนบริษัทบ่อยนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผลการวิจัยพบว่า การมีสัตว์เลี้ยงในสถานที่ทำงานนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย– ว้าว…ไหมล่ะ!?!

Dog Therapy : ตูบบำบัด

การใช้สัตว์เลี้ยงเพื่อบำบัดโรคซึมเศร้านั้นมีมานานมากแล้ว โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษซึ่งถือเป็นการบำบัดที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะ ‘สุนัข’ ที่สามารถช่วยบำบัดจิตใจของผู้ป่วยจนได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยสุนัขบำบัดหรือที่เรียกว่า Therapy Dog นั้นจะต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีให้มีความอ่อนโยน เป็นมิตร และตอบสนองในทางบวก มันจะสามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงและรู้วิธีสนองตอบกับคนที่มีอาการผิดปกติ เช่น วิตกกังวล ความกลัว ความเครียด ฯลฯ 

นั่นไม่ได้หมายความว่า สุนัขที่ไม่ได้รับการฝึกฝนจะบำบัดคนไม่ได้ เพราะเคยมีงานวิจัยเปรียบเทียบอัตราการอยากฆ่าตัวตายของคนที่อยู่คนเดียวกับคนที่เลี้ยงสุนัขหรือแมวพบว่า คนที่เลี้ยงสุนัขหรือแมวนั้นมักมีภาวะเสี่ยงกับโรคซึมเศร้าได้น้อยกว่า เพราะแทนที่จะจดจ่ออยู่กับความทุกข์หรือความเหงาของตัวเอง ก็ไปจดจ่ออยู่กับสัตว์เลี้ยงแทนนั่นเอง   

ในเมืองไทยเองก็เคยมีโครงการ ‘สุนัขบำบัด’ เยียวยาจิตใจให้ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โดยโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางเลือกเพื่อสร้างความผ่อนคลาย เบี่ยงเบนความรู้สึกจากความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยมะเร็ง และคงไว้ซึ่งคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมนั่นเอง 

Bird Therapy : วิหคบำบัด

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บรรดาวิหคเหินลมนั้น นอกจากการเป็นเพื่อนแก้เหงาของคนเราแล้ว มันยังสามารถบำบัดโรคได้ จากรายงานการศึกษาของ E.Paul Chemiack และคณะแห่งสถาบันผู้สูงอายุ โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยไมอามีมิลเลอร์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เผยแพร่ไว้ในวารสาร Current Gerontol Geratic Research ปี 2014 ในฐานข้อมูล NCBI ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ถึงผลการศึกษาเรื่อง The Benefit of Pet and Animal-Assisted Therapy to the Health of Older Individuals เพื่อวัดประสิทธิภาพการรักษาโรคซึมเศร้าและจิตเภทด้วยการใช้สัตว์เลี้ยงบำบัดพบว่า สัตว์เลี้ยงมีส่วนช่วยสร้างภาวะสุขภาพจิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ ช่วยให้ห่างไกลจากความเหงา ความโดดเดี่ยว การแยกตัวจากสังคม ฯลฯ และนั่นทำให้ในสหรัฐอเมริกามีบริการสัตว์เลี้ยงบำบัดมากกว่า 50,000 ตัว และบริการในลักษณะนี้กำลังเป็นที่นิยมในหลายประเทศ เช่น นอร์เวย์ บราซิล เป็นต้น

นอกจาก ‘สุนัข’ ที่เป็นสัตว์นักบำบัดยอดฮิตแล้ว ก็ยังมีสัตว์อื่นๆ ที่ช่วยบำบัดอาการซึมเศร้าในมนุษย์ได้อีก หนึ่งในนั้น ‘เจ้ามาคอว์’ รวมถึงสัตว์ปีกอีกหลายชนิด ซึ่งมีการศึกษาวิจัยและการใช้งานจริงแล้วพบว่า การให้กลุ่มผู้สูงอายุมาดูแลนก ทำให้มีสภาพอารมณ์ที่ดีขึ้น ช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี นั่นจึงเป็นที่มาของ ‘วิหคบำบัด’ ศาสตร์การบำบัดอาการซึมเศร้าด้วยนก อีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงที่มีทั้งความสวยงามและนิสัยที่แสนรู้ โดยเฉพาะนกในตระกูลนกแก้ว รวมไปถึงนกช่างเจรจาอย่างเจ้านกขุนทองที่สามารถเลี้ยงไว้คลายเหงาได้  

Fish Therapy : มัจฉาบำบัด

นับเป็นอีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงที่เชื่อว่าคนร้อยทั้งร้อยนึกภาพไม่ออกว่าจะบำบัดเยียวยาคนเราได้อย่างไร ทั้งๆ ที่จริงนั้น ‘มัจฉาบำบัด’ (fish therapy) ถูกใช้ในทางการแพทย์มานานแล้ว โดยเฉพาะโรคผิวหนังชนิดต่างๆ เช่น สะเก็ดเงิน (psoriasis) โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (eczema) เป็นต้น รวมถึงปลายังเป็นนักบำบัดทางใจ การันตีด้วยหลายๆ การศึกษาพบว่า… 

  • การเลี้ยงปลาจะช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น ลดความวิตกกังวล และคลายเหงาได้ โดยเฉพาะปลาในกลุ่มปลาสวยงาม เช่น ปลาเงิน ปลาทอง ปลาคาร์ป ฯลฯ 
  • การเลี้ยงปลาช่วยคลายเครียดให้กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคความดันโลหิตได้อย่างอยู่หมัด เพราะการเลี้ยงปลานั้นช่วยลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจได้นั่นเอง
  • ปลาในตู้เลี้ยงปลาหรืออะควาเรียมยังช่วยให้ผู้ที่มีอาการสมองเสื่อมในสถานพักฟื้นผู้ป่วยสมองเสื่อม (dementia unit) มีอาการดีขึ้น ทั้งด้านการนอน อารมณ์หงุดหงิด พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และการไม่ร่วมมือ ฯลฯ
  • การมองดูปลาในตู้ปลายังช่วยลดพฤติกรรมก่อกวน (disruptive behavior) ลดความเครียด ความวิตกกังวล และช่วยให้สงบอารมณ์ได้ง่าย (calming effect) ในกลุ่มเด็กพิเศษได้ โดยเฉพาะในห้องเรียนหรือห้องบำบัด  

เป็นต้น

ปลานับเป็นสัตว์เลี้ยงที่เหมาะกับคนที่มีนิสัยรักสันโดษ ไม่ชอบความวุ่นวายหรือมีเสียงร้องทักรบกวน การเลี้ยงปลานั้นทำให้ผู้เลี้ยงรู้สึกสดชื่นเหมือนได้รับการพักผ่อน สีสันของปลามีส่วนช่วยให้ลดความเครียด คลายกังวลได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด แต่อยากเลี้ยงสัตว์เพื่อบำบัดสักตัวสองตัว  

คำเตือน! สำหรับใครที่อยากหาสัตว์เลี้ยงสักตัวมาดูแลนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการหาข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเอง เหมาะไหม? พร้อมไหม? สำหรับการดูแลอีกหนึ่งชีวิต เพราะการเลี้ยงสัตว์แต่ละชนิด แต่ละตัวนั้น ล้วนมีรายละเอียดยิบย่อยที่เราควรศึกษาให้ดี และเมื่อนำเขามาอยู่ในชีวิตเราแล้ว หน้าที่ของเราคือมอบความรักและดูแลเขาอย่างดีที่สุด

แต่สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจหรือไม่พร้อมสำหรับการร่วมชีวิตกับสัตว์เลี้ยงสักตัว เราก็แนะนำให้ลองใช้วิธีเล่นกับหมาแมวเพื่อนบ้าน หรือออกไปใช้บริการสัตว์บำบัดที่มีให้เลือกมากมาย หรือแค่ไปนั่งชิลล์ จิบเครื่องดื่มที่ชอบในคาเฟ่น้องหมาน้องแมว หรือเดินปล่อยอารมณ์ในอะควาเรียมขนาดใหญ่ เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยให้ผ่อนคลาย อารมณ์ดี ลดระดับความวิตกกังวลลงได้แล้ว ยิ่งเป็นอะควาเรียมที่มีปลาจำนวนมากๆ หลากหลายชนิด หลากหลายสีสันมากเท่าไรก็ยิ่งช่วยบำบัดได้มากขึ้นเท่านั้น  

รู้อย่างนี้แล้ว จะรอช้าอยู่ไย แต่งตัวให้เริดแล้วออกไปเฉิดฉายกันเถอะ แล้วอย่าลืมถ่ายภาพมาอวดชาว TBCC กันได้ที่ www.facebook.com/tbcccommunity รอชมอยู่น้า…

ขอบคุณข้อมูลจาก
www.komchadluek.net
https://dmh.go.th
http://gemmabusquets.com
https://animal.catdumb.com
www.bangkokbiznews.com
www.happyhomeclinic.com

แชร์ไปยัง
Scroll to Top