ถือเป็นคำถามที่หมอถูกถามบ่อยอีกหนึ่งคำถามว่า มีอาหารอะไรบ้างที่ไม่ควรรับประทานเมื่อป่วยเป็นมะเร็ง อาหารต้องห้ามของผู้ป่วยมะเร็งมีอยู่ 2 อย่างเท่านั้น คือ
1. แอลกอฮอล์ บุหรี่ และสารเสพติดทุกประเภท
บางคนหลังจากสิ้นสุดการรักษามะเร็งแล้ว อาจจะคิดว่าดื่มแอลกอฮอล์ได้บ้าง กลับไปสูบบุหรี่ได้ หรือใช้สารเสพติดอื่นๆ ได้บ้าง แต่หมอขอบอกตรงนี้เลยว่า แอลกอฮอล์ บุหรี่ และสารเสพติดนั้นไม่ดีต่อสุขภาพและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากบุหรี่มีสารก่อมะเร็งปริมาณมากกว่า 200 ชนิด มีทั้งสารหนู สารปรอท ฯลฯ ฉะนั้น ไม่ว่าคนป่วยเป็นมะเร็งหรือไม่ก็ตาม ควรเลิกสูบบุหรี่ทันที เพราะการสูบบุหรี่แม้เพียงเล็กน้อยก็ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายได้นะคะ
นอกจากการสูบบุหรี่ด้วยตัวเองแล้ว การรับควันบุหรี่หรือบุหรี่มือสองจากสิ่งแวดล้อม คนรอบข้าง ก็เป็นสิ่งที่ควรจะหลีกเลี่ยง เช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ หากเคยเป็นมะเร็งแล้ว หรือแม้จะหายจากมะเร็งแล้วก็ตาม ควรเลิกดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด จำไว้ว่า การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพสำหรับผู้ป่วยมะเร็งนั้นไม่เป็นความจริง นี่คืออาหารต้องห้ามที่ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด หากไม่อยากกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำ
2. อาหารที่กินแล้วอ้วน
เพราะภาวะอ้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งได้ ดังนั้น อาหารอะไรก็ตามที่เรารับประทานแล้วอ้วน หรือรับประทานมากเกินไปทำให้อ้วนได้ รวมถึงการไม่ออกกำลังกาย ซึ่งทำให้เราเกิดภาวะอ้วนได้ โดยภาวะอ้วนในทางการแพทย์นั้นวัดได้จาก Body Mass Index หรือ BMI ดังนี้
หาก BMI อยู่ระหว่าง 25-29 ถือว่าอยู่ในสภาวะ ‘น้ำหนักเกิน’ แม้จะไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งมาก แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้ว่า เราควรจะเริ่มลดน้ำหนักได้แล้ว แต่เมื่อใดที่ BMI ของเรามากกว่า 30 นั่นถือว่าเรากำลังอยู่ในสภาวะอ้วน หมอแนะนำให้ลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งซ้ำอีกครั้ง
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ ร่วมด้วยก็ควรคำนึงถึงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงตามโรคประจำตัว เช่น คุณเป็นเบาหวานร่วมด้วยก็หลีกเลี่ยงการกินหวาน อาหารที่มีไขมันเยอะ ฯลฯ หรือหากเป็นโรคความดัน โรคไต หรือโรคหัวใจ ก็หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม เกลือ เป็นต้น
แต่สำหรับอาหารปิ้งย่าง หมักดอง หลายคนก็ถามมาว่า กินได้ไหม หมอจะเน้นย้ำเสมอว่า คนที่เป็นโรคมะเร็งควรใช้ชีวิตปกติ กล่าวคือ รับประทานอะไรก็แล้วแต่ให้คำนึงถึง ‘ความพอดี’ เป็นหลัก เช่น เดือนหนึ่ง 2-3 ครั้ง ก็ยังพอได้ อย่าถึงขั้นห้ามกินไปตลอดชีวิตเลย เพราะจะเกิดความเครียดในการดำเนินชีวิตเสียเปล่าๆ
เช่นเดียวกับเนื้อสัตว์ เนื้อแดง ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันนั้นไม่ห้ามการกินเนื้อแดง แต่ไม่ควรเกินสัปดาห์ละ 500 กรัม หรือหากจะงดเว้นก็ต้องหาโปรตีนอื่นๆ มาทดแทน เช่น โปรตีนจากถั่วเหลือง เต้าหู้ ไข่ อาหารทะเล ฯลฯ แต่ไม่ควรขาดโปรตีนเพราะโปรตีนมีส่วนสำคัญมากๆ ต่อร่างกาย