ผู้ป่วยมะเร็งที่เข้าสู่การรักษาแล้วมีภาวะซีดหรือเม็ดเลือดแดงต่ำ แก้ได้อย่างไรบ้าง

ส่วนใหญ่การแก้ไขภาวะซีดหรือเม็ดเลือดแดงต่ำในผู้ป่วยมะเร็งนั้น คุณหมอมักจะแนะนำให้กิน ‘ธาตุเหล็ก’ ซึ่งจะพบอยู่ทั่วไปในอาหาร เช่น ตับ เนื้อแดง ผักใบเขียว ฯลฯ รวมถึง ‘ข้าวสินเหล็ก’ และ ‘ข้าวสีนิล’ ที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แต่หากต้องการให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กอย่างเต็มที่ ควรนำข้าวไปแช่น้ำทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนจึงจะนำมาหุงกิน เพราะในข้าวนั้นจะมีสารที่เรียกว่า ‘ไฟเทต’ (Phytates) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมแร่ธาตุของร่างกาย การแช่ข้าวนั้น สารไฟเทตจะถูกนำไปใช้ในกระบวนการงอกของข้าวหมดนั่นเอง

นอกจากการแช่ข้าวค้างคืนแล้ว ยังมีกรรมวิธีที่เรียกว่า ‘ฮางข้าว’ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวอีสาน โดยการนำข้าวมาแช่น้ำให้งอก จากนั้นหยุดกระบวนการงอกด้วยการเอาไปผึ่ง และเอากลับมาแช่อีกครั้ง แล้วจึงนำไปนึ่ง การทำเช่นนี้นอกจากจะทำให้สารไฟเทตลดลงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก ในข้าวให้มากขึ้น ซึ่งข้าวที่ผ่านกรรมวิธีฮางและพบสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดก็คือ ข้าวหอมมะลิแดง ปัจจุบันนี้เรายังสามารถหาซื้อข้าวฮางสำเร็จรูป ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้องฮาง ข้าวหอมมะลิฮาง ฯลฯ ได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป ซึ่งเป็นข้าวที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์แถมรสชาติอร่อยอีกด้วย

แต่อาหารที่มีเหล็กสูงและคนมักจะนึกไม่ถึง คงหนีไม่พ้น ดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งมีธาตุเหล็กสูงกว่าเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ ยังมี ‘โพลีฟีนอล’ (polyphenol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ควบคุมมะเร็งได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการวิจัยพบว่า หากเรากินดาร์กช็อกโกแลตวันละ 40 กรัม ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ความเครียดจะน้อยลง ซึ่งความเครียดนี้เองจะส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ระบบภูมิคุ้มกันนี้ในการทางแพทย์จะเรียกว่า NK Cells (Natural Killer Cells) ถือว่าเป็นเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ปกติแล้วร่างกายคนเรานั้นจะมี NK Cells อยู่ประมาณ 2,000-5,000 ล้านเซลล์ เมื่อมีเซลล์แปลกปลอมรุกล้ำเข้ามา NK Cells จะรีบจัดการเซลล์แปลกปลอมเหล่านั้นทันทีภายใน 24 ชั่วโมง

การทำงานของ NK Cells นี้ เราเรียกว่า NK Cell Activity ซึ่งแพทย์จะใช้ประเมินความแข็งแกร่งของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับการติดเชื้อ หรืออธิบายให้ง่ายขึ้นก็คือตัววัดความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับเซลล์แปลกปลอมที่เป็นอันตรายนั่นเอง

มีการศึกษาพบว่า หากคนเราอยู่ในภาวะเครียด หมดหวัง สิ้นหวัง เป็นเวลาเพียง 6 นาที เราต้องใช้เวลาในการดึง NK Cell Activity หรือระบบภูมิคุ้มกันกลับมากว่า 21 ชั่วโมง นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมผู้ป่วยมักจะภูมิคุ้มกันตกทันทีที่รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ซึ่งไม่คุ้มกันเลย ฉะนั้น อย่าปล่อยให้ความเครียดทำลายภูมิคุ้มกันตัวเองโดยไม่รู้ตัว

ดร.กมล ไชยสิทธิ์
อุปนายกสมาคมโภชนาการและสมุนไพรเชิงบูรณาการ

แชร์ไปยัง
Scroll to Top