
เดือนนี้แม่บ้านคีโมมีเมนูเด็ดมาฝาก นั่นก็คือ ‘สลัดแคร์รอต’ เมนูที่เกิดจากความเบื่ออาหารของแม่บ้านคีโมเอง จึงอยากเนรมิตอาหารที่มีสีสันสวยๆ เพื่อเรียกน้ำย่อย ชวนให้ท้องหิว โดยการผสมผสานวัตถุดิบหลากหลาย ซึ่งรับรองว่าไม่ได้ดูดีแค่หน้าตา แต่รสชาติยังกลมกล่อม จนแม่บ้านคีโมอยากมาแชร์ความอร่อยให้เพื่อนๆ ผู้ป่วยและเพื่อนๆ ที่รักสุขภาพทั้งหลายได้ลองลิ้มชิมรส หากอยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร เข้าครัวไปพร้อมกันได้เลย
วัตถุดิบ
- แคร์รอต 1 หัว
- ไข่ต้ม 1 ฟอง
- หมูสับ 100 กรัม
- ทูน่าในน้ำแร่ 1 กระป๋อง
- มัสตาร์ดธัญพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- พาร์สลีย์ (ซอยหยาบ) 2 ช่อ (หรือปริมาณตามชอบ)
- เกลือป่น 1 หยิบนิ้ว
- พริกไทยดำป่น 1 หยิบนิ้ว
วิธีปรุง
- นำแคร์รอตล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด (ไม่ต้องปอกเปลือก) ตั้งหม้อ ต้มน้ำ ใส่แคร์รอตลงไป ต้มจนแคร์รอตสุก
- พักแคร์รอตไว้ให้พออุ่นๆ เตรียมกะละมัง นำแคร์รอตลงไปบดด้วยส้อม หรือบี้ๆ ให้เนื้อแคร์รอตละเอียดกำลังดี แต่ไม่ต้องละเอียดมาก เดี๋ยวจะเละจนเกินไป
- จากนั้นบดไข่ต้มและทูน่าแค่พอหยาบๆ ลงไปผสมกับแคร์รอต ใส่เครื่องปรุงทั้งหมดลงไป (เกลือ, พริกไทยป่น, พาร์สลีย์)
- ใส่น้ำแร่ที่แช่ทูน่าสัก 1 ช้อนโต๊ะ จะช่วยเพิ่มความหอมนัวมากยิ่งขึ้น จากนั้นคนคลุกเคล้าให้เข้ากันและจัดจานเสิร์ฟได้เลย
.
เคล็ด (ไม่) ลับ
ฉบับแม่บ้านคีโม
จุดเด่นของสลัดแคร์รอตนี้คือสามารถรับประทานเป็นอาหารว่างระหว่างวันหรือเป็นอาหารมื้อหลักเลยก็ได้ อีกทั้งยังสามารถเก็บไว้เป็น ‘สเปรด’ ทาขนมปังในมื้อเช้าหรือมื้อเร่งด่วนก็ช่วยให้อยู่ท้องและยังได้ประโยชน์มากมาย เพราะแคร์รอตนั้นมีประโยชน์มาก แต่หากต้องการให้ได้คุณค่าทางอาหารอย่างสูงสุด แนะนำให้ ‘ปรุงสุก’ ก่อนนำมารับประทาน เนื่องจากแคร์รอตมีผนังเซลล์ที่แข็ง การรับประทานแบบดิบๆ จะได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่ ฉะนั้น การทำให้สุกก่อนนำมารับประทานจะทำให้ผนังเซลล์ที่แข็งตัวสลายออกไป ร่างกายเราก็จะได้รับเบตาแคโรทีนได้อย่างสูงสุด และสำคัญที่สุดคือควรรับประทานแคร์รอตร่วมกับอาหารที่มีไขมัน เนื่องจากเบตาแคโรทีนนั้นละลายได้ดีในไขมัน จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารเบตาแคโรทีนได้มากกว่าครึ่งจากการรับประทานปกติ
.
เกี่ยวกับแม่บ้านคีโม
“โบยังตายไม่ได้นะ
โบขอลองเขียนอะไรสักอย่าง
ให้ผู้คนได้รู้จักแม่ก่อน แล้วค่อยตาย…”
นั่นเป็นคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่เมื่อ 9 ปีก่อนของ โบ-เสาวณิช ผิวขาว ซึ่งตอนนั้นเธอกำลังเผชิญกับโรคมะเร็งเต้านมระยะ 2A ในวัย 32 ปี และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘แม่บ้านคีโม’ นามปากกาที่เธอใช้แทนลายเซ็นตัวเองผ่านบทบาทของ ‘คอลัมนิสต์’ แห่งเพจชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย (TBCC) อาสาเสิร์ฟสูตรอาหารสุขภาพรสชาติไม่จืดชืด พร้อมสารพันเคล็ดลับความอร่อยให้แก่ผู้ป่วยและผู้ไม่ป่วยได้ลองนำไปทำรับประทาน
ปัจจุบันนามปากกานี้ยังถูกใช้เป็นชื่อเพจและร้านอาหารที่ถนัดเสิร์ฟแต่เมนูสุขภาพ ซึ่งเธอปรุงเองด้วยใจและใส่ความรักลงไปในทุกจานดังที่ ‘แม่’ ของเธอเคยมอบให้ลูกค้าเมื่อนานมาแล้ว และแม้วันนี้มะเร็งเต้านมจะกลับมาเยี่ยมเยียนเธออีกครั้ง โดยครั้งนี้มะเร็งลุกลามไปที่กระดูกสันหลัง และเพิ่งจบการรักษาเคมีบำบัดไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแม่อย่างไม่เคยย่อท้อ สนใจติดตามผลงานความอร่อยของเธอได้ที่เพจ ‘แม่บ้านคีโม’
