
เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า มะเร็งเกิดจากอะไร? มะเร็งเกิดจาก ‘เซลล์’ ในร่างกายของเราแบ่งตัวผิดปกติ แบ่งตัวแบบไม่มีที่สิ้นสุดจนทำให้เป็นมะเร็ง และ สาเหตุใดที่ทำให้เซลล์แบ่งตัวผิดปกติ? ก็เกิดจากการที่ DNA หรือยีนของเราเกิดการ ‘กลายพันธุ์’
หลายคนอาจจะสงสัย อะไรที่ทำให้ยีนเกิดการกลายพันธุ์ได้? คำตอบคือกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ก็มาจากการใช้ชีวิตของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารปิ้งย่าง การได้รับมลพิษ การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การไม่ออกกำลังกาย ฯลฯ สาเหตุเหล่านี้ล้วนทำให้ยีนหรือ DNA ของเราเกิดการกลายพันธุ์ได้ ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ของการเกิดโรคมะเร็งมาจาก ‘พันธุกรรม’ หรือการมียีนก่อมะเร็ง
เราสามารถสังเกตว่า ตัวเองอาจจะมีพันธุกรรมหรือยีนก่อมะเร็งอย่างไรบ้าง หมอขอยกตัวอย่างคนไข้หญิงรายหนึ่งอายุ 45 ปี ซึ่งสงสัยว่าตัวเองอาจจะมีพันธุกรรมมะเร็ง เนื่องจากน้องสาววัย 30 ปี เป็นมะเร็งรังไข่ และคุณแม่ก็เป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ คนไข้รายนี้จึงสงสัยว่าตัวเองอาจจะมีพันธุกรรมมะเร็ง เพราะคนในครอบครัวซึ่งเป็นคนรุ่นเดียวกัน (น้องสาว) เป็นมะเร็ง และคุณแม่ที่ห่างไปหนึ่งรุ่นเป็นมะเร็งเช่นเดียวกัน รวมถึงมะเร็งที่เป็นก็เป็นหลายชนิด โดยเฉพาะอายุของน้องสาวที่เป็นมะเร็งนั้นน้อยกว่า 40 ปี หมอจึงแนะนำให้คนไข้ตรวจหายีนก่อมะเร็งผ่านการตรวจเลือด ผลปรากฏว่าเขามียีนก่อมะเร็งที่ชื่อว่า MSH2 ซึ่งเป็นยีนที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งมากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะความเสี่ยงจะเป็น ‘มะเร็งลำไส้ใหญ่’ มากกว่าคนทั่วไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์ นี่เองที่คนไข้ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ผ่านการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ ยีนตัวนี้ยังทำให้เราเสี่ยงเป็นมะเร็งที่อื่นๆ มากกว่าคนทั่วไปด้วย เช่น มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งรังไข่ ฯลฯ ซึ่งผู้หญิงที่ตรวจพบยีนก่อมะเร็งชนิดนี้อาจพิจารณาผ่าตัดมดลูก รวมถึงรังไข่ทั้งสองข้างออก เพื่อลดโอกาสเป็นมะเร็งดังกล่าว
สิ่งที่จะเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตจากโรคมะเร็งนั้นก็คือการตรวจเจอมะเร็งได้เร็ว การตรวจวินิจฉัยได้ทัน และเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันท่วงที ดังนั้น หากใครสงสัยว่าตัวเองจะมียีนก่อมะเร็งจากพันธุกรรม เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งหลายๆ คน และเป็นมะเร็งตอนอายุยังน้อย และมักเป็นมะเร็งหลายๆ ตำแหน่ง หมอแนะนำให้รีบเข้ามาปรึกษาหมอและตรวจคัดกรองหายีนก่อมะเร็ง เพื่อเป็นการเฝ้าระวังตัวเองทางหนึ่ง