
การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ส่งผลทำให้เกิดการยับยั้งการทำงานของรังไข่ ปริมาณไข่ลดลง และส่งผลทำให้ขาดประจำเดือนได้
โดยภาวะการขาดประจำเดือน อาจเป็นแบบชั่วคราวหรือแบบถาวรก็ได้ ขึ้นกับสภาพร่างกายของผู้ป่วย อายุของผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด และชนิดของยาเคมีบำบัด เช่น ในกรณีที่ผู้ป่วยอายุมากกว่า 45 ปี โอกาสที่จะขาดประจำเดือนมากกว่าในรายที่อายุน้อยกว่า 40 ปี แม้รักษาด้วยยาเคมีบำบัดสูตรเดียวกัน นอกจากนี้ จากข้อมูลการศึกษาพบว่า ถ้าผู้ป่วยขาดประจำเดือนนานเกิน 12 เดือน จะมีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมามีประจำเดือนอีกครั้ง
ในระหว่างที่ไม่มีประจำเดือน ผู้ป่วยจำเป็นต้องคุมกำเนิดร่วมด้วย เนื่องจากการรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมนในมะเร็งเต้านมชนิดตัวรับฮอร์โมนเป็นบวกส่งผลกระทบต่อตัวอ่อนในครรภ์ ทำให้เกิดภาวะพิการแต่กำเนิดได้ ถึงแม้ว่าผู้ป่วยยังไม่มีประจำเดือน แต่ยังไม่ถือว่าเป็นวัยทองก่อนกำหนด เนื่องจากการขาดประจำเดือนเป็นผลมาจากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด อย่างไรก็ตาม ถ้าติดตามภาวะดังกล่าวไปนาน 1-2 ปี แล้วพบว่ายังไม่มีประจำเดือน แสดงว่าผู้ป่วยอาจกำลังเข้าสู่วัยทองในระยะเริ่มต้น ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับไม่มีประจำเดือนและหรือร่วมกับอาการของวัยทอง แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์ร่วมดูแล