
เดือนนี้แม่บ้านคีโมขอพาทุกคนมารู้จัก ‘กะหล่ำปลีม่วง’ ผักสีสันจัดจ้าน คุณค่าจัดเต็ม จะกินสลัดทั้งที กินแต่ผักสีเขียวอย่างเดียวก็คงจะน่าเบื่อเกินไป ขอแจมสีอื่นเข้าไปเพิ่มด้วยละกัน
ว่าแล้วก็หยิบกะหล่ำปลีม่วงใส่ชามแบบไม่ลังเล และต่อจากนี้กะหล่ำปลีม่วงจะไม่เป็นแค่ผักแต่งจานอีกต่อไป โดยเฉพาะเมนูนี้ที่บอกเลยว่า นอกจากรสชาติแล้ว ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เพราะกะหล่ำปลีม่วงนี้ประกอบด้วยสารอาหารหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร ทั้งยังมีใยอาหารสูง มีวิตามินซีสูงปรี๊ดมากกว่ากะหล่ำปลีเขียวถึงสองเท่า แถมยังช่วยการหมุนเวียนของเลือดในอวัยวะต่างๆ อีกด้วย ต่อจากนี้ไปเราคงจะมองข้ามกะหล่ำปลีม่วงในจานอาหารไม่ได้แล้ว หากพร้อมแล้วก็ตามมาดูวิธีทำเมนูสลัดกะหล่ำปลีม่วงง่ายๆ กันเลยดีกว่า
วัตถุดิบ
- กะหล่ำปลีม่วงซอยละเอียด 50 กรัม
- แอปเปิล (เขียวหรือแดงก็ได้) ซอยเส้นเล็กๆ 1 ลูก
- คื่นฉ่าย 2-3 ก้าน
- แคร์รอตซอยละเอียด 10 กรัม (ใส่หรือไม่ก็ได้ แต่ช่วยเพิ่มสีสันและวิตามิน)
- งาขาวและงาดำคั่ว สำหรับโรยหน้า 1-2 ช้อนชา (เพิ่มความมัน)
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มรสเปรี้ยว ช่วยให้สดชื่นขึ้น)
- น้ำผึ้งหรือไซรัปหญ้าหวาน 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
- โชยุหรือซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ขิงขูดละเอียดหรือสับละเอียด 1.5 ช้อนชา
- กระเทียมสับละเอียด 1.5 ช้อนชา
- พริกไทยดำป่นเล็กน้อย
วิธีปรุง
1. เตรียมผัก : นำกะหล่ำปลีม่วง, แอปเปิล, คื่นฉ่าย, แคร์รอต ล้างให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ แล้วซอยให้ละเอียด หรือหั่นเป็นเส้นเล็กๆ ตามชอบ ใส่ลงในชามผสมขนาดใหญ่
2. ทำน้ำสลัด : ใช้ชามเล็กๆ ผสมน้ำมันงา, น้ำมะนาว, น้ำผึ้ง, โชยุ, ขิงขูด, กระเทียมสับ คนให้เข้ากันจนน้ำผึ้งละลายหมด ชิมรสและปรับรสชาติได้ตามชอบ
3. ผสมสลัด : เทน้ำสลัดลงบนชามผักที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากันเบาๆ เพื่อไม่ให้ผักช้ำ นำเข้าตู้เย็น พักไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้น้ำสลัดซึมเข้าเนื้อผัก
4. จัดเสิร์ฟ : ตักสลัดใส่จาน โรยหน้าด้วยงาขาวและงาดำตามชอบ พร้อมเสิร์ฟได้ทันที
เคล็ด (ไม่) ลับ
ฉบับแม่บ้านคีโม
เมนูนี้แนะนำให้รับประทานในช่วงฤดูร้อน เพราะนอกจากจะได้รับวิตามินซีสูงจากกะหล่ำปลีม่วง, น้ำมะนาวสด, แอปเปิลแล้ว ยังเป็นเมนูที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย ซึ่งได้จากแอปเปิลและน้ำมะนาวสดอีกด้วย แต่หากต้องการรับประทานกะหล่ำปลีม่วงให้ได้ประโยชน์แบบสูงสุด แม่บ้านคีโมมีเทคนิคมาฝาก คือ 1) กินสดในสลัดเพื่อรักษาวิตามินซี 2) สามารถหมักดองแบบโพรไบโอติก ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ดีในลำไส้ 3) ผัดหรือต้มเร็วๆ ด้วยไฟอ่อน ไม่ควรปรุงนานเกินไปเพราะจะไปลดสารอาหารต่างๆ ในกะหล่ำปลีม่วงได้ และ 4) แนะนำให้กินร่วมกับไขมันดี (เช่น น้ำมันมะกอก) เพื่อช่วยดูดซึมสารอาหาร สำหรับชาว TBCC ที่อยากได้ Tips & Tricks อะไรเพิ่มเติม สามารถเขียนเข้ามาสอบถามแม่บ้านคีโมกันได้เลยนะคะ
เกี่ยวกับแม่บ้านคีโม
“โบยังตายไม่ได้นะ
โบขอลองเขียนอะไรสักอย่าง
ให้ผู้คนได้รู้จักแม่ก่อน แล้วค่อยตาย…”
นั่นเป็นคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่เมื่อ 9 ปีก่อนของ โบ-เสาวณิช ผิวขาว ซึ่งตอนนั้นเธอกำลังเผชิญกับโรคมะเร็งเต้านมระยะ 2A ในวัย 32 ปี และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘แม่บ้านคีโม’ นามปากกาที่เธอใช้แทนลายเซ็นตัวเองผ่านบทบาทของ ‘คอลัมนิสต์’ แห่งเพจชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย (TBCC) อาสาเสิร์ฟสูตรอาหารสุขภาพรสชาติไม่จืดชืด พร้อมสารพันเคล็ดลับความอร่อยให้แก่ผู้ป่วยและผู้ไม่ป่วยได้ลองนำไปทำรับประทาน
ปัจจุบันนามปากกานี้ยังถูกใช้เป็นชื่อเพจและร้านอาหารที่ถนัดเสิร์ฟแต่เมนูสุขภาพ ซึ่งเธอปรุงเองด้วยใจและใส่ความรักลงไปในทุกจานดังที่ ‘แม่’ ของเธอเคยมอบให้ลูกค้าเมื่อนานมาแล้ว และแม้วันนี้มะเร็งเต้านมจะกลับมาเยี่ยมเยียนเธออีกครั้ง โดยครั้งนี้มะเร็งลุกลามไปที่กระดูกสันหลัง และเพิ่งจบการรักษาเคมีบำบัดไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแม่อย่างไม่เคยย่อท้อ สนใจติดตามผลงานความอร่อยของเธอได้ที่เพจ ‘แม่บ้านคีโม’
