มะเร็งเต้านมชนิดใดดุร้ายที่สุด

เรามาทำความเข้าใจก่อนว่า ‘มะเร็งพันธุ์ดุคืออะไร’ มะเร็งพันธุ์ดุก็คือมะเร็งที่เติบโตเร็ว ลุกลามเร็ว มีการกระจายไปที่อวัยวะอื่นๆ ได้เร็ว ซึ่งวิธีการดูว่ามะเร็งชนิดไหนดุและแพร่กระจายได้เร็วนั้น มีหลายองค์ประกอบให้พิจารณา ได้แก่

1) ตำแหน่งที่เป็นมะเร็ง  เช่น มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งตับอ่อน มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น

2) อายุที่เป็นมะเร็ง ยิ่งเป็นมะเร็งตอนอายุน้อยมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความดุร้ายมากเท่านั้น เพราะเป็นตัวบ่งชี้ว่า เราอาจจะมียีนกลายพันธุ์หรือพันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้เป็นมะเร็งง่ายและลุกลามเร็ว 

3) ระยะของโรคมะเร็ง ซึ่งแบ่งง่ายๆ ตั้งแต่ระยะ 0 ถึงระยะ 4 โดยดูจากขนาดของก้อนมะเร็งและการกัดกินของโรคมะเร็ง รวมถึงการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะข้างเคียง รวมถึงอวัยวะที่ห่างไกล ยิ่งมีการแพร่กระจายเยอะก็ยิ่งมีระยะที่สูงขึ้น และยิ่งมีความดุร้ายของโรคมากขึ้น 

4) อวัยวะที่มะเร็งแพร่กระจายไป โดยสมองจะนับเป็นอวัยวะที่บ่งชี้ได้ว่า มะเร็งชนิดนั้นดุร้ายมากที่สุด รองลงมาก็เป็นปอดและตับ เป็นต้น 

5) ชนิดของมะเร็ง แม้ว่าจะเป็นมะเร็งตำแหน่งเดียวกัน แต่อาจจะดุร้ายแตกต่างกัน เช่น มะเร็งปอด หากเป็นชนิดเซลล์เล็ก (Small Cell Lung Cancer) เมื่อไร มีความดุร้ายมาก หรือมะเร็งไทรอยด์ หากเป็นชนิดอะนาพลาสติก (Anaplastic Thyroid Cancer) ก็มีความดุร้าย หรือมะเร็งสมอง หากเป็นแบบ GBM (Glioblastoma) ก็ถือว่าดุร้าย  

6) เกรดของมะเร็ง ซึ่งดูได้จากชิ้นเนื้อ โดยคุณหมอพยาธิวิทยาก็จะนำชิ้นเนื้อมาตรวจดู ยิ่งเกรดสูงก็จะยิ่งดุร้ายมาก เช่น มะเร็งเต้านมมี 3 เกรด ถ้าพบว่าเป็นเกรด 3 ก็บ่งชี้ได้ว่ามะเร็งที่เป็นนั้นดุร้ายมาก เป็นต้น เกรดหรือที่เรียกกันว่า ค่า Ki67 ที่บ่งชี้ถึงสภาวะการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของเซลล์ (Cell proliferation) รวมถึงรูปร่างของเซลล์ ยิ่งถ้าเซลล์แบ่งตัวน่าเกลียดน่ากลัวมากเท่าไร ก็ยิ่งดุร้ายมากขึ้นเท่านั้น

ในปัจจุบันนี้ เรายังสามารถตรวจได้ถึงระดับโมเลกุล หรือที่เรียกว่า Molecular Testing เพื่อดูการกลายพันธุ์ของมะเร็ง นอกจากจะช่วยทำให้เรารู้ว่ามะเร็งที่เป็นอยู่นั้นดุหรือไม่แล้ว ยังช่วยให้แพทย์พยากรณ์โรคได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นด้วย ฉะนั้น มะเร็งพันธุ์ดุเป็นแบบไหน นอกจากจะดูที่การเติบโตและลุกลามเร็วแล้ว เรายังต้องดูหลายๆ องค์ประกอบข้างต้น และหากถามว่า มะเร็งเต้านมชนิดใดดุร้ายที่สุด สำหรับหมอขอยกให้มะเร็งเต้านมชนิด Triple Negative โดยเฉพาะในผู้ป่วยอายุน้อยหรือก่อนอายุ 40 ปี ยิ่งเป็นตอนอายุน้อยกว่า 35 ปี ยิ่งดุมาก รวมถึงหากเป็นร่วมกับการมียีนกลายพันธุ์ เช่น BRCA1 หรือ BRCA2 ก็ยิ่งเพิ่มความดุขึ้นไปอีก

พญ.คัคนานต์ เทียนไชย
อายุรแพทย์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านมะเร็งวิทยา
โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
เจ้าของช่อง Dr.Tarn หมอตาลต้านมะเร็ง

แชร์ไปยัง
Scroll to Top