หมึกไข่ต้มน้ำดำ

เดือนนี้ แม่บ้านคีโมชวนมาดูวิธีกิน ‘หมึก’ อย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ จากที่ผ่านมา เราคงได้ยินผ่านหูมาบ้างว่า ‘หมึก’ เป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงงงง… ไม่ควรรับประทานบ่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องถูกต้องค่ะ! เพียงแต่คอเลสเตอรอลในหมึกนั้นให้ปริมาณไขมันอิ่มตัวต่ำ จึงไม่ส่งผลให้เกิดไขมันหรือคอเลสเตอรอลสะสมในเลือดอย่างที่หลายๆ คนกลัวกัน พูดง่ายๆ ว่า ไขมันในหมึกเป็นไขมันดีที่ร่างกายต้องการนั่นเอง

นอกจากนี้ หมึกยังมีประโยชน์ต่อร่างกายนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงต่อกล้ามเนื้อและเส้นผม, ลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง, สนับสนุนการทำงานของสมอง และเสริมสร้างเฮโมโกลบินในเม็ดเลือด เป็นต้น ที่สำคัญ น้ำหมึกจากหมึกยังสามารถนำมารับประทานได้ แถมยังมีประโยชน์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีที่แม่บ้านไม่อยากให้คุณผู้อ่านพลาด

นี่เองจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เดือนนี้ แม่บ้านจึงอยากชวนให้ทุกคนได้ลองทำ ‘หมึกไข่ต้มน้ำดำ’ เมนูง่ายๆ ที่เชื่อว่าถูกปากทุกเพศทุกวัยแน่นอนค่ะ

ส่วนผสม

1. ปลาหมึกสด ตัวประมาณ 3-4 นิ้ว 500 กรัม
2. รากผักชี 1 ต้น
3. กระเทียมไทยบุบ 10 กลีบ
4. หอมแดงบุบ 2-3 หัว
5. น้ำปลาอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำสต็อกหรือน้ำสะอาด 800-1000 มิลลิลิตร
7. ขึ้นฉ่าย 1 ต้น
8. พริกไทย

วิธีปรุง

  1. ล้างปลาหมึกสดที่เตรียมไว้ด้วยเกลือ 3-4 รอบ จนมั่นใจว่าสะอาดดีแล้ว พักไว้
  2. ตั้งหม้อเติมน้ำสต็อกหรือน้ำสะอาด ใส่กระเทียมบุบ, หอมแดงบุบ, รากผักชีให้เดือด
  3. ค่อยๆ หย่อนปลาหมึกลงหม้อ เบาไฟกลาง อย่าต้มนานมากนะคะ เพราะหมึกค่อนข้างสุกง่ายอยู่แล้ว สักประมาณ 3 นาที ก็เพียงพอแล้วค่ะ
  4. ปรุงรสด้วยน้ำปลาและพริกไทย ชิมรสชาติตามชอบ โดยรสชาติของปลาหมึกน้ำดำจริงๆ จะมีรสเค็มนิดๆ เป็นตัวชูโรง สูตรของแม่บ้านคีโมไม่ใส่น้ำตาลทรายนะคะ เพราะอยากให้สัมผัสความหวานธรรมชาติที่ได้จากตัวและน้ำหมึกของปลาหมึกจริงๆ ค่ะ
  5. ปิดเตา จากนั้นตักใส่ถ้วย โรยขึ้นฉ่ายเพิ่มความหอม เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
  6. บ้านไหนจะนำข้าวสวยหรือข้าวเย็นลงไปต้มด้วยก็จะได้เป็นข้าวต้มปลาหมึกไข่น้ำดำ อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ

 เคล็ด (ไม่) ลับ ฉบับแม่บ้านคีโม

มีข้อควรระวังบางอย่างที่ควรรู้ก่อนรับประทานหมึก มิฉะนั้นอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เช่น

  • สารโลหะหนัก หรือสารแคดเมียมมีโทษต่อร่างกาย โดยอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรืออาจมีผลระยะยาวกลายเป็นโรคกระดูกพรุนได้ ทางที่ดี ก่อนรับประทานปลาหมึกควรล้างทำความสะอาดปลาหมึกเสียก่อน และควรควักไส้หมึกออกมาทิ้งก่อนนำไปทำอาหารค่ะ
  • สารฟอร์มาลิน ทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารจนปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย การทำงานของสมอง ตับ ไตถูกรบกวน ดังนั้น ก่อนซื้อปลาหมึกมารับประทานให้ลองดมกลิ่นก่อน หากปลาหมึกมีกลิ่นฉุน แสบจมูก ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจมีสารฟอร์มาลินปนเปื้อนอยู่ วิธีสังเกตอีกอย่างคือเนื้อปลาหมึกที่แช่ฟอร์มาลินจะไม่นิ่มหรือยืดหยุ่นตามธรรมชาติ แต่จะดูแข็ง ไม่นุ่ม หรืออาจเปื่อยยุ่ยเกินไปค่ะ

แม้ ‘หมึก’ จะมีประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกาย ไขมันไม่สูง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานเฉพาะหมึกมากเกินไป ทางที่ดีควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์แต่พอดี ไม่มากและไม่น้อยเกินไปนะคะ

.

เกี่ยวกับ ‘แม่บ้านคีโม’

“โบยังตายไม่ได้นะ 
โบขอลองเขียนอะไรสักอย่าง  
ให้ผู้คนได้รู้จักแม่ก่อน แล้วค่อยตาย…”  

นั่นเป็นคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่เมื่อ 9 ปีก่อนของ โบ-เสาวณิช ผิวขาว ซึ่งตอนนั้นเธอกำลังเผชิญกับโรคมะเร็งเต้านมระยะ 2A ในวัย 32 ปี และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของแม่บ้านคีโมนามปากกาที่เธอใช้แทนลายเซ็นตัวเองผ่านบทบาทของ ‘คอลัมนิสต์’ แห่งเพจชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย (TBCC) อาสาเสิร์ฟสูตรอาหารสุขภาพรสชาติไม่จืดชืด พร้อมสารพันเคล็ดลับความอร่อยให้แก่ผู้ป่วยและผู้ไม่ป่วยได้ลองนำไปทำรับประทาน

ปัจจุบันนามปากกานี้ยังถูกใช้เป็นชื่อเพจและร้านอาหารที่ถนัดเสิร์ฟแต่เมนูสุขภาพ ซึ่งเธอปรุงเองด้วยใจและใส่ความรักลงไปในทุกจานดังที่ ‘แม่’ ของเธอเคยมอบให้ลูกค้าเมื่อนานมาแล้ว และแม้วันนี้มะเร็งเต้านมจะกลับมาเยี่ยมเยียนเธออีกครั้ง โดยครั้งนี้มะเร็งลุกลามไปที่กระดูกสันหลัง และเพิ่งจบการรักษาเคมีบำบัดไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแม่อย่างไม่เคยย่อท้อ สนใจติดตามผลงานความอร่อยของเธอได้ที่เพจ ‘แม่บ้านคีโม

.

แชร์ไปยัง
Scroll to Top