Costume Therapy : ชุดสวย…ช่วยกู้ ‘ใจ’

ถึงป่วยก็ต้องสวยปัง!
ช่วยกู้ใจพังๆ ของเราได้

อย่างที่รู้กันดีว่า เมื่อร่างกายป่วย ‘จิตใจ’ เราก็มักจะห่อเหี่ยว ไม่สดใสเหมือนเคย ยิ่งหากป่วยด้วยโรคเรื้อรังหรือร้ายแรงจึงไม่แปลกที่จะ ‘จิตตก’ ได้ง่ายๆ และไม่น้อยถึงขั้นใจพัง มีอาการซึมเศร้าไปเลยก็มี นั่นเองทำให้นอกจากยารักษาทางกายแล้ว การเยียวยา ‘ใจ’ ก็เป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องอยู่ในกระบวนการรักษายาวนาน และการเยียวยาใจที่ได้ผลวิธีหนึ่งก็คือ การลุกขึ้นมาแต่งตัว!?
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากผลวิจัยของนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์ตฟอร์ดเชียร์ (University of Hertfordshire) ซึ่งทำการทดสอบกับผู้หญิง 100 คน พบว่า… 

62%

มักจะหยิบเดรสสวยๆ มาสวมใส่ พร้อมเครื่องประดับแบบจัดเต็มเมื่อรู้สึกดี

6%

เท่านั้นที่จะสวมใส่เดรสเมื่อรู้สึกหดหู่ สิ้นหวัง

≈ 100%

เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มักจะเลือกสวมหมวกเมื่อมีความสุข แต่ถ้าวันไหนเศร้า หมวกจะไม่ได้รับความสนใจเลย  

31%

มักเลือกสวมรองเท้าคู่โปรดเมื่อรู้สึกแฮปปี้

6%

เลือกใส่รองเท้าคู่โปรดในวันที่ซึมเศร้า–อืมมม…

50%

มักเลือกสวมกางเกงยีนส์เมื่ออารมณ์หดหู่และซึมเศร้าลึกๆ ข้างใน

1/3

มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่จะใส่กางเกงยีนส์เมื่อมีความสุข

52%

มักเลือกสวมเสื้อตัวโคร่งหลวมๆ มาใส่เมื่อรู้สึกหดหู่หรือกดดัน 

2%

จะใส่เสื้อตัวโคร่ง
เมื่อมีความสุข 

จากผลงานวิจัยสรุปได้ว่า เสื้อผ้าที่สาวๆ สวมใส่นั้น ไม่ได้เพียงบ่งบอกสไตล์หรือความชอบเฉพาะบุคคลเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงอารมณ์ลึกๆ ข้างในว่าเธอรู้สึกอย่างไรอีกด้วย ซึ่งผู้หญิงที่รู้สึกมีความสุข มักอยากแต่งตัวสวยๆ แต่เมื่อไรที่พวกเธอรู้สึกเศร้า หดหู่ สิ้นหวัง เธอแทบจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องการแต่งกายเลย 

ชุดสวยช่วยกู้ใจ

นอกจากเสื้อผ้าที่ใส่จะ ‘สะท้อน’ ภายในของคนเราแล้ว เสื้อผ้ายัง ‘ส่งผล’ ต่อตัวเราเองด้วย โดยนักจิตวิทยาในสหรัฐอเมริกาเรียกอิทธิพลนี้ว่า ‘Enclothed Cognition’ ซึ่งอธิบายว่า เสื้อผ้าที่เราใส่นั้นสามารถส่งผลต่อกระบวนการคิดและพฤติกรรมของผู้สวมใส่ มนุษย์เราจะมีพฤติกรรมหรือแสดงบทบาทตามอัตลักษณ์ของเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของเราเอง สังเกตง่ายๆ คนที่สวมเสื้อสูทมักแสดงออกแตกต่างจากการสวมใส่ชุดลำลอง 

สำคัญกว่านั้นคือเสื้อผ้ายังสามารถสร้างความมั่นใจและรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น รวมถึงยังสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ ความคิด และความรู้สึกของเราได้ นั่นเองที่ทำให้การแต่งตัวถูกนำไปใช้ในการบำบัดเยียวยาจิตใจเราได้–ง่ายๆ และทำได้ด้วยตัวเอง 

วันนี้ TBCC จึงขอรวบรวมไอเดียการแต่งตัวให้สวยปัง แถมช่วยเยียวยาใจพังๆ ของเราได้มาฝาก…

1. ใส่ชุดโปรด เปิดโหมดความสุข 

วันไหนรู้สึกแย่ๆ ลองหยิบชุดโปรดหรือแอ็กเซสเซอรี่ชิ้นที่ใส่แล้วรู้สึกดีกับตัวเองหรือมีความสุขขึ้นมาใส่ จากนั้นก็แค่ส่องกระจก ถ่ายรูปเก็บไว้ หรือจะใส่เล่นๆ นอนดูซีรีส์อยู่บ้าน เพียงเท่านี้ก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาแล้วละ – ไม่เชื่อก็ลองดูสิ

2. ‘จิตตก’ แต่งตัวสีสดๆ ช่วยได้    

ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือแม้แต่แอ็กเซสเซอรี่ต่างๆ ที่มีสีสันจัดจ้านแสบทรวงนั้นช่วยลดอาการจิตตกได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะสีทุกสีล้วนส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนเราไม่แพ้เสื้อผ้าที่เราใส่ เรื่องนี้ยืนยันโดยงานวิจัยของ Keith Jacobs และ Frank Hustmyer ที่อธิบายว่า

สีที่แตกต่างกันสามารถเปลี่ยนอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และการหายใจของเราได้ 

นั่นเองที่ทำให้ ‘สีสัน’ ของเสื้อผ้านั้นสามารถเยียวยาความรู้สึกภายในเราได้ เพียงแต่เราต้องทำความเข้าใจเรื่องสีในแต่ละโทนก่อน เช่น สีส้มถือเป็นสีแห่งความสนุกสนาน ช่วยเยียวยาจิตใจที่ห่อเหี่ยวให้กลับมากระปรี้กระเปร่าได้, สีน้ำเงินเป็นสีแห่งความเยือกเย็น หนักแน่น ช่วยให้ระบบหายใจสมดุลขึ้น ทั้งยังใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

3. Color Block เรียกความมั่นใจ 

บางวันที่รู้สึกสับสนปนความไม่มั่นใจ ลองหยิบเสื้อผ้าที่มีสีสันตัดกันมาใส่ รับรองว่าคุณจะเปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่ดูมั่นใจขึ้นมาทันที เราเรียกเทคนิคนี้ว่า เล่นเฉดสีตัดกัน (Color Block) เช่น ใส่ชุดสีเรียบๆ แต่ถือกระเป๋าสีจัดจ้าน หรือจะใช้สีตัดกันทั้งตัวก็ได้

นอกจากจะช่วยให้ลุคสดใสแล้ว ยังเสริมความมั่นใจภายในให้เราอีกด้วย สำคัญกว่านั้น คือ ทุกครั้งที่เราส่องกระจกแล้วเห็นตัวเองอยู่ท่ามกลางเสื้อผ้าสีสดใส นั่นช่วยดึงพลังความสดใสที่ซ่อนอยู่ในตัวเองกลับคืนมาอีกครั้ง ฉะนั้น อย่ากลัวที่จะใส่เสื้อผ้าสีสันตัดกัน

4. แค่ถือกระเป๋าแดง…แรงก็มา!

หากสาวๆ คนใดใจยังไม่กล้าที่จะหยิบเสื้อผ้าสีสันจัดจ้านหรือสีตัดกันมาใส่ TBCC ก็มีเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยเยียวยาใจได้เหมือนกัน ก็คือการลองถือกระเป๋าสีสันสดใส และถ้าคิดไม่ออกว่าจะเอาสีอะไร อาจจะเริ่มจาก ‘กระเป๋าแดง’ ก่อนเลย เพราะเป็นเฉดที่เข้าได้กับการแต่งตัวหลากหลายสไตล์ และในเชิงจิตวิทยานั้น สีแดงสื่อถึงความมั่นใจ ความมีพลัง กระตุ้นประสาท และทำให้เราตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยบรรเทาความเจ็บปวดทางกล้ามเนื้อและอาการปวดหัวได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.thairath.co.th
https://www.thairath.co.th
https://sistacafe.com
https://www.bangkokbiznews.com
https://costumeshowcase.com
https://www.unlockmen.com

แชร์ไปยัง
Scroll to Top