
‘ใจ’ กับ ‘กาย’ สัมพันธ์กันอย่างปฏิเสธไม่ได้…
เรื่องนี้ได้รับการันตีโดยงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The Lancet ซึ่งนักวิจัยได้ทำการทดลองในผู้หญิงวัยกลางคนกว่า 720,000 คน และติดตามผลตลอดหลายปี จนพบว่าคนที่มีความรู้สึก ‘สุข’ มักจะมีสุขภาพดี เพราะจิตใจที่เป็นทุกข์มักก่อให้เกิดความวิตกกังวล ความเครียด กระทั่งทำให้ร่างกายพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ และอีกสารพัดผลเสียที่มีต่อสุขภาพ
หนึ่งในการฝึกจิตให้ไม่ตกอยู่ในความทุกข์ รู้จักปล่อยวาง-ว่างนั้นก็คือ ‘การฝึกสมาธิ’ และเพื่อเป็นการต้อนรับวันสมาธิโลก (World Meditation Day) ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ทาง TBCC จึงขอรวบรวม 5 เหตุผล…ทำไมคนป่วยมะเร็งต้องฝึก ‘สมาธิ’ มาฝาก
หากอยากรู้ว่าเพราะอะไร เรามาดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า…


สมาธิลดเครียด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การทำสมาธินั้นถือเป็นเครื่องมือชั้นดีในการรับมือกับความเครียด ความวิตกกังวล และความไม่แน่นอนในชีวิตได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการทำสมาธินั้นจะช่วยลดคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดที่สามารถนำไปสู่ผลเสียต่อสุขภาพหลายอย่าง เช่น น้ำหนักเพิ่มขึ้น ความดันโลหิตสูง และระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ รวมถึงยังอาจจะนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าในอนาคตได้อีกด้วย
จึงไม่แปลกเลยที่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Google, Facebook และ Apple มีนโยบายให้พนักงานทุกคนทำสมาธิด้วย เพราะสมาธิจะช่วยปรับฮอร์โมนคอร์ติซอลกลับมาอยู่ในภาวะสมดุล ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยลดความวิตกกังวล ลดความเครียด รวมถึงบรรเทาอาการผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย เช่น นอนไม่หลับ ภูมิแพ้ ไมเกรน เป็นต้น

สมาธิบรรเทาปวด
มีผลงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่า การนั่งสมาธิทำให้ร่างกายของคนเราหลั่ง ‘สารแห่งความสุข’ หรือเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ออกมา ซึ่งช่วยลดความเครียด ผ่อนคลาย สบายตัว บรรเทาความหวาดกลัวและความกระวนกระวาย รวมไปถึงเยียวยาความเจ็บปวดภายในร่างกายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
การฝึกสมาธิชั่วโมงกว่าๆ สามารถช่วยลดอาการเจ็บปวดและการกระตุ้นให้เกิดความเจ็บปวดที่มาจากการทำงานของสมอง โดยอธิบายว่า “เราพบว่าความรุนแรงของความเจ็บปวดลดลง 40 เปอร์เซ็นต์ และความไม่พอใจต่อความเจ็บปวดลดลง 57 เปอร์เซ็นต์ และแสดงให้เห็นว่า สมาธิช่วยลดความเจ็บปวดได้มากกว่ามอร์ฟีนหรือยาแก้ปวดอื่นๆ ที่ช่วยลดระดับความเจ็บปวดได้ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์”
Fadel Zeidan นักจิตวิทยาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวกฟอเรสต์ ในวินสตันซาเลม เปิดเผยว่า การฝึกสมาธิไม่กี่ครั้งทำให้คนเรานั้นสามารถทนความเจ็บปวดได้ดีขึ้น ทั้งนี้ สมาธิไม่ได้ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดหายไป แต่สมาธิช่วยให้เราควบคุมอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสัมผัสความเจ็บปวดได้ และการที่เราควบคุมหรือบรรเทาอาการบางอย่างได้ด้วยตนเองถือเป็นพลังการบำบัดที่สำคัญมาก


สมาธิลดอ้วน
เพราะความอ้วนเป็นศัตรูตัวร้ายสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ในขณะที่สมาธินั้นสามารถช่วยเราควบคุมน้ำหนักได้อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากการฝึกควบคุมการหายใจผ่านการนั่งสมาธินั้นจะช่วยควบคุมความคิดของเราให้อยู่กับปัจจุบัน และอยากทำแต่สิ่งดีๆ ให้ตัวเองมากมาย แม้กระทั่งการกิน ซึ่งสมาธิจะช่วยให้เราสามารถแยกแยะระหว่างความหิวและความอยากของจิตใจได้ และรู้ถึงอาหารที่กำลังกินอยู่ว่ามากหรือน้อยไป รู้จักคัดสรรอาหารที่มีประโยชน์ให้ตัวเอง รวมถึงสมาธิยังช่วยให้เราสามารถเคี้ยวอย่างช้าๆ มีสติไปกับอาหารทุกคำ ซึ่งเป็นการฝึกร่างกายให้รับรู้ว่าต้องการอาหารเพิ่มหรือเพียงพอแล้ว การฝึกสมาธิควบคู่กับการออกกำลังกายและควบคุมอาหารจึงช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลดีมากขึ้น

สมาธิช่วยหลับ
อย่างที่ทราบกันดีว่า ในร่างกายของเรานั้นมี Biological Clocks หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘นาฬิกาชีวิต’ ซึ่งควบคุมสมองและร่างกายว่าถึงเวลาพักผ่อนแล้ว เมื่ออวัยวะต่างๆ ได้รับสัญญาณก็จะเริ่มทำงานช้าลง จนเข้าสู่สภาวะพักผ่อน และทำให้เราเคลิ้มหลับไป โดยในกระบวนการนี้มีแกนนำตัวสำคัญที่ชื่อว่า ‘เมลาโทนิน’ (Melatonin)
เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่สร้างมาจากสมอง โดยสมองจะถูกกระตุ้นให้สร้างเมลาโทนินในเวลาที่ไม่มีแสงหรือมีแสงสว่างน้อย เมื่อถึงเวลากลางคืน สมองจะหลั่งเมลาโทนินออกมาสู่กระแสเลือด ทำให้ร่างกายรู้สึกง่วง ซึ่งปกติจะเป็นเวลาราว 3 ทุ่ม และระดับของเมลาโทนินจะคงอยู่ในกระแสเลือดของเราเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ก่อนจะค่อยๆ ลดลงพร้อมกับการกลับมาของแสงอาทิตย์ และในเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ระดับเมลาโทนินจะลดต่ำลงจนวัดระดับไม่ได้
เมลาโทนินจึงถือเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ และยังเกี่ยวข้องกับระบบการทำงานของร่างกายอื่นๆ เช่น ระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาท ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบการต้านออกซิเดชัน เป็นต้น ทั้งนี้ เราสามารถสร้างเมลาโทนินได้เองตามธรรมชาติหลากหลายวิธี เช่น การออกไปรับแสงแดดบ้าง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินได้ถึงระดับสูงสุด หรือการกินอาหารที่มีเมลาโทนินสูงอย่างข้าวโอ๊ต, ข้าวโพดหวาน, ข้าว, ขิง, มะเขือเทศ, กล้วย, ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น รวมถึงการทำสมาธิก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเร็วคลื่นสมอง ผ่อนคลายความเครียดเกร็งจากความคิด เมื่อคลื่นสมองต่างๆ เหล่านี้ช้าลง ฮอร์โมนเมลาโทนินก็จะเพิ่มขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
นั่นเองจึงเป็นที่มาของผลวิจัยที่ระบุว่า ผู้ที่ทำสมาธิเป็นประจำส่วนใหญ่จะหลับลึกและยาวนานกว่า เมื่อเทียบกับคนที่ต้องกินยานอนหลับ ทำให้การนอนของผู้ที่ทำสมาธิมีคุณภาพอย่างไม่น่าเชื่อ


สมาธิยืดอายุเซลล์
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ผู้ที่ทำสมาธิเป็นประจำนั้นมักจะมีอายุเซลล์เด็กกว่าอายุจริงถึง 12 ปี เนื่องจากสมาธินั้นช่วยกระตุ้นร่างกายให้ผลิตฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการชะลอความชรา เช่น เมลาโทนิน ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการนอนหลับและสารต้านอนุมูลอิสระได้ถึง 98-300 เปอร์เซ็นต์, ดีเอชอีเอ (DHEA) ซึ่งเป็นฮอร์โมนต้านริ้วรอยได้ถึง 44-90 เปอร์เซ็นต์ และสมาธิยังช่วยลดการผลิต คอร์ติซอล ฮอร์โมนแห่งความเครียดที่ทำให้ชั้นผิวบางลงและอักเสบเรื้อรังได้ถึง 47 เปอร์เซ็นต์
ยิ่งไปกว่านั้น สมาธิยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ เอนไซม์ทีโลเมอร์เรส (Telomerase) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้อายุยืนถึง 33 เปอร์เซ็นต์ โดยฮอร์โมนนี้จะช่วยสร้างและดำรงสภาพ รวมถึงเพิ่มความยาวให้กับ ทีโลเมียร์ (Telomere) ซึ่งทุกๆ ครั้งที่ร่างกายคนเรามีการเจริญเติบโตหรือซ่อมแซมส่วนต่างๆ เซลล์ก็จะเกิดการแบ่งตัวไปเรื่อยๆ นั่นจะส่งผลให้ทีโลเมียร์สั้นลงไปด้วย และเมื่อทีโลเมียร์หดสั้นลงจนไม่สามารถลดลงได้ เซลล์นั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการชราและเสื่อมสภาพในที่สุด
สรุปง่ายๆ ว่า เมื่อสมาธิช่วยให้เอนไซม์ทีโลเมอร์เรสทำงานได้ดี นั่นก็หมายความว่าเราก็จะดูอ่อนเยาว์และมีอายุยืนไปด้วย แต่ถ้าเมื่อไรที่เอนไซม์ทีโลเมอร์เรสทำงานได้ไม่ดี นอกจากริ้วรอยจะมาเยือนแล้ว อายุของเราก็จะสั้นลงไปด้วยนั่นเอง
นอกจากนี้ยังพบว่า การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก โดยสูดหายใจเข้าไปให้เต็มท้องลึกๆ ช้าๆ และปล่อยลมหายใจออกมายาวๆ ระหว่างการทำสมาธินั้น เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ออกซิเจนเข้ามาฟอกเลือดภายในร่างกายได้ นับเป็นการดีท็อกซ์สารพิษในตัว นอกจากจะช่วยส่งผลให้สมองไบรต์ คิดอะไรก็ไหลลื่นแล้ว ยังส่งผลให้เลือดลมไหลเวียนดี ผิวพรรณของเราผ่องใส เต่งตึง จนอ่อนเยาว์กว่าวัยในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://clmjournal.org
https://health30plus.com
http://oldweb.most.go.th
https://thestandard.co
https://www.pobpad.com
http://oldweb.most.go.th
https://www.doctor.or.th
https://hocc.medicine.psu.ac.th
https://www.thaipost.net